ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
  • ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
ข่าวอสังหาริมทรัพย์
Line
02 ม.ค.2557

มองผ่านเลนส์รับสร้างบ้านปี'57ตลาดภูธรดาวรุ่ง-กทม.ปริมณฑลดาวร่วง

Line

             ผ่ามุมมองนายกสมาคมไทยรับสร้างบ้านปีมะเมีย ระบุ ยังเป็นโอกาสทองผู้ประกอบการเจาะลูกค้าตลาดภูธร ขณะที่วิกฤติแรงงานยังตามหลอกหลอนไม่เลิก ขณะเดียวกันตลาดสร้างบ้านเองปีนี้ ทะลัก 8หมื่นยูนิตทั่วประเทศ คาดกลุ่มธุรกิจรับสร้างบ้านแบ่งแชร์ได้ 7%ยันตลาดกรุงเทพฯ และปริมณฑลนั่งตบยุ่ง

นายสิทธิพร สุวรรณสุต นายกสมาคมไทยรับสร้างบ้าน (Thai Home Constructions Association : THCA) สรุปความเคลื่อนไหวภาพรวมธุรกิจรับสร้างบ้านในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมทั้งในต่างจังหวัดตลอดทั้งปี 2556 พบว่า ปริมาณและมูลค่าตลาดรับสร้างบ้านขยายตัวเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 12 เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2555 ที่ผ่านมา โดยประเมินจากกลุ่มผู้ประกอบการรับสร้างบ้านที่แข่งขันอยู่ในธุรกิจนี้แยกเป็น 3 กลุ่มหลักๆ ได้แก่ 1.กลุ่มสมาคมไทยรับสร้างบ้าน 2.กลุ่มผู้ผลิตวัสดุที่ขยายไลน์มาสู่รับสร้างบ้าน 3.กลุ่มบริษัทรับสร้างบ้านทั่วไป (ไม่สังกัดสมาคมหรือชมรมใด) และ 4.กลุ่มสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ทั้งนี้ เมื่อสำรวจในแง่การทำตลาดรับสร้างบ้านของแต่ละกลุ่มธุรกิจพบว่า 3 กลุ่มแรก หันมาเน้นแข่งขันและขยายตลาดรับสร้างบ้านต่างจังหวัดมากขึ้น ซึ่งทั้ง 3 กลุ่มนี้คาดว่ามีสัดส่วนการเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 10-30

ขณะที่กลุ่มสุดท้ายยังคงทำตลาดอยู่เฉพาะในกรุงเทพฯ เป็นหลัก และเติบโตแบบชะลอตัว นอกจากนี้ข้อมูลที่น่าสนใจอีกประการคือ ในปีนี้ "กลุ่มบริษัทรับสร้างบ้านทั่วไป" หรือที่ไม่สังกัดสมาคมใดๆ เป็นกลุ่มที่มีจำนวนผู้ประกอบการมากที่สุด ทั้งนี้ เป็นการเข้ามาของกลุ่มทุนในท้องถิ่นหรือผู้ประกอบการรายใหม่ในช่วง 1-3 ปีมานี้และส่วนใหญ่มีสำนักงานตั้งอยู่ในภูมิภาคหรือจังหวัดสำคัญๆ ทางเศรษฐกิจของแต่ละภูมิภาค เช่น เชียงใหม่ นครสวรรค์ อุดรธานี อุบลราชธานี นครราชสีมา สระบุรี ชลบุรี ระยอง ประจวบฯ (หัวหิน) สุราษฎร์ธานี สงขลา (หาดใหญ่) ฯลฯ เป็นต้น

สำหรับความต้องการสร้างบ้านหลังใหม่ของผู้บริโภคที่ใช้บริการกับบริษัทรับสร้างบ้านในช่วง 4 ไตรมาส ปี 2556 พบว่า ไตรมาสที่ 1-3 กำลังซื้อและปริมาณสร้างบ้านโดยรวมทั่วประเทศขยายตัวได้ดี โดยเป็นผลมาจากการแข่งขันกระตุ้นตลาดของผู้ประกอบการเป็นสำคัญ ทั้งตลาดรับสร้างบ้านภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคอีสาน และภาคใต้ ยกเว้นในบางจังหวัดที่เผชิญกับภัยธรรมชาติหรือน้ำท่วมเป็นบางขณะ ในส่วนของตลาดรับสร้างบ้านในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล การกระตุ้นตลาดของผู้ประกอบการไม่คึกคักเท่าที่ควร โดยมีเฉพาะบริษัทรับสร้างบ้านชั้นนำเพียงไม่กี่รายที่ทำการตลาด หรือมีการสื่อสารกับผู้บริโภคอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ส่งผลให้ตลาดรับสร้างบ้านในกรุงเทพฯ ไม่เติบโตดังที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้

ในช่วงไตรมาสสุดท้ายปี 2556 ปริมาณและมูลค่าตลาดรับสร้างบ้านชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัดเจน โดยเฉพาะในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม ทั้งนี้เป็นเพราะได้รับผลกระทบจากปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้น โดยกำลังซื้อของผู้บริโภคหรือตลาดรับสร้างบ้านที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ได้แก่ ตลาดในเขตกรุงเทพฯ และหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ ผู้ประกอบการต่างประเมินกันว่าไตรมาสสุดท้ายกำลังซื้อน่าจะเติบโตได้ร้อนแรงกว่านี้ อย่างไรก็ดี ภาพรวมตลาดรับสร้างบ้าน ปีนี้ ถือว่าเติบโตได้ถึง 2 หลัก หรือในระดับที่สูงกว่า 3-4 ปีที่ผ่านมา แม้ว่าจะต้องเผชิญกับปัจจัยลบทางเศรษฐกิจ ความผันผวนของต้นทุน การเมือง ปัญหาขาดแคลนแรงงาน และภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นเป็นระยะๆ ตลอดปีที่ผ่านมา

ประการสำคัญ เป็นเพราะผู้ประกอบการมีการปรับตัวได้ดี ทั้งการขยายตลาดหรือเจาะกลุ่มกำลังซื้อใหม่ๆ การใช้เทคโนโลยีก่อสร้างแทนการใช้แรงงานมากขึ้น การรวมกลุ่มและคำสั่งซื้อ และการกระจายความเสี่ยงของรายเดิมด้วยการขยายสาขาออกไปในพื้นที่ใหม่ เพื่อเลี่ยงผลกระทบจากภัยธรรมชาติและการเมือง เป็นต้น รวมถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ต้องการสร้างบ้านหรือที่อยู่อาศัยหลังใหม่ ที่หันมาสนใจเลือกใช้บริการมืออาชีพหรือบริษัทรับสร้างบ้านเป็นอันดับแรกมากขึ้น ซึ่งต่างจากในอดีตที่ผู้บริโภคมักนิยมเลือกพิจารณาผู้ประกอบการรายย่อยๆ ก่อน ซึ่งจากพฤติกรรมดังกล่าวนับเป็นโอกาสดีของแบรนด์บริษัทรับสร้างบ้าน ซึ่งเป็นที่รู้จักและน่าเชื่อถือของผู้บริโภค นอกจากนี้ ธนาคารผู้ให้บริการสินเชื่อเพื่อปลูกสร้างบ้าน หันมาให้ความสำคัญและเน้นปล่อยสินเชื่อให้กลุ่มลูกค้าบ้านสร้างเองและรับสร้างบ้านมากขึ้น มีการปรับเงื่อนไขและขั้นตอนบริการ พร้อมๆ กับร่วมมือกับสมาคมและกลุ่มบริษัทรับสร้างบ้านในการเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคในต่างจังหวัดมากขึ้น ปัจจุบันสัดส่วนฐานลูกค้าสินเชื่อปลูกสร้างบ้านมีการขยายตัวออกไปในภูมิภาคตามกัน

สำหรับแนวโน้มและทิศทางตลาดรับสร้างบ้านปี 57 สมาคมฯ ประเมินว่าทิศทางตลาดรับสร้างบ้านปี 57 ยังเป็นโอกาสและถือเป็นช่วงขาขึ้น สำหรับกลุ่มผู้ประกอบการรับสร้างบ้าน ที่เน้นบุกตลาดในภูมิภาค หรือต่างจังหวัดเป็นหลัก เนื่องเพราะความนิยมของผู้บริโภคที่หันมาเลือกบริษัทรับสร้างบ้านที่มีมาตรฐานและน่าเชื่อถือเพิ่มมากขึ้น กอปรกับปัญหาขาดแคลนแรงงานและค่าแรงที่ปรับตัวสูงขึ้นมาก ซึ่งส่งผลให้ผู้ประกอบการรายย่อยๆ ประสบปัญหาและไม่อาจรับงานสร้างบ้านได้โดยตรงกับผู้บริโภค

นอกจากนี้ ทิศทางการขยายตัวของการลงทุน ทั้งของกลุ่มทุนขนาดใหญ่และขนาดกลางออกไปในภูมิภาคส่งผลให้มีการโยกย้ายถิ่นอาศัยของคนในเมืองหลวงออกไปสู่ภูมิภาค และคนต่างจังหวัดที่เข้ามาทำงานในเมืองหลวงก็มีการย้ายกลับภูมิลำเนาเดิม เพราะมีการจ้างงานและได้ค่าจ้างไม่ต่างกัน ทำให้ความต้องการบ้านหรือที่อยู่อาศัยเพิ่มตามมา ทั้งบ้านหลังแรกของคนทำงานรุ่นใหม่และบ้านหลังที่สองของนักธุรกิจที่ขยับขยายการลงทุนออกไปในต่างจังหวัดทุกภูมิภาค

สำหรับแนวโน้มตลาดรับสร้างบ้านในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลอาจไม่เติบโตตามกัน เพราะความต้องการของผู้บริโภคหรือตลาดอยู่ในภาวะอิ่มตัว ซึ่งไม่เฉพาะบ้านสร้างเอง แต่รวมถึงบ้านเดี่ยวโครงการบ้านจัดสรรก็ชะลอตัวตามด้วยเช่นกัน เหตุผลสำคัญเป็นเพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันมานิยมเลือกที่อยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมมากขึ้น โดยเฉพาะคอนโดฯ แนวรถไฟฟ้า ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติของเมืองหลวงในทั่วโลก เนื่องจากที่ดินมีราคาแพงและผลของการจราจรที่ติดขัดมาก ดังนั้นในส่วนของผู้ประกอบการที่เน้นทำตลาดอยู่เฉพาะในกรุงเทพฯ จึงจำเป็นต้องมีการปรับตัวอย่างมาก เพราะมีผู้ประกอบการแข่งขันกันอยู่มากรายและรุนแรง ซึ่งผู้ประกอบการรายที่มีชื่อเสียงเป็นที่น่าเชื่อถือและสามารถบริหารต้นทุนได้ต่ำที่สุดเท่านั้น จึงจะมีความได้เปรียบและแข่งขันอยู่ได้ สำหรับรายเล็กๆ อาจต้องลดสเกล หรือปริมาณการรับสร้างบ้านลง ด้วยการเลือกเจาะตลาดเฉพาะกลุ่มมากขึ้น

สมาคมฯ ประเมินว่าปริมาณ "บ้านสร้างเอง" ทั่วประเทศปี 2557 คาดว่าจะมีจำนวนประมาณ 80,000 หน่วยเศษทั่วประเทศ โดยเชื่อว่ากลุ่มธุรกิจ "รับสร้างบ้าน" จะมีแชร์ส่วนแบ่งตลาดประมาณร้อยละ 6-7 หรือประมาณ 4,800-5,000 หน่วยเศษ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1.4 หมื่นล้านบาทเศษ หรือเติบโตกว่าปีที่แล้วเฉลี่ยร้อยละ 8-10 ทั้งนี้ คาดว่าตลาดต่างจังหวัดมีสัดส่วนประมาณร้อยละ 70 หรือ 3,300-3,500 หน่วย และสัดส่วนตลาดในกรุงเทพฯ ประมาณร้อยละ 30 หรือกว่า 1,400-1,500 หน่วยเศษ ซึ่งปี 2557 นี้ สมาคมฯ คาดว่าบริษัทรับสร้างบ้านแบรนด์ชั้นนำกลุ่ม Top 5 และกลุ่มกลุ่มผู้ผลิตวัสดุที่ขยายไลน์มาสู่รับสร้างบ้าน จะเป็นกลุ่มที่ช่วยกระตุ้นตลาดให้ขยายตัวและมีแชร์ส่วนแบ่งตลาดมากที่สุด โดยเฉพาะแชร์ส่วนแบ่งตลาดรับสร้างบ้านในต่างจังหวัด ปีนี้เชื่อว่ากลยุทธ์ทางการตลาดที่มีแนวโน้มนำมาใช้กันมากขึ้น ได้แก่ อีเวนท์มาร์เก็ตติ้ง โซเชียลมีเดีย และสื่อทีวี ฯลฯ โดยคาดว่าสื่อโฆษณาสิ่งพิมพ์จะใช้เพื่อสื่อสารกับผู้บริโภคน้อยลง

ทั้งนี้ ประเมินว่ากิจกรรมทางการตลาดของกลุ่มธุรกิจรับสร้างบ้านในปี 2557 จะแข่งขันกันคึกคักตั้งแต่ช่วงต้นปีเป็นต้นไป โดยสมาคมไทยรับสร้างบ้าน จะมีการจัดงานแสดงสินค้าและนิทรรศการขึ้นภายใต้ชื่องาน "ไทยแลนด์ โฮม บิลเดอร์ แฟร์ 2014" ระหว่างวันที่ 5-9 กุมภาพันธ์ 2557 บนพื้นที่ 10,000 ตารางเมตร ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี และงาน "โฮม โฟกัส" ของสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ที่จะจัดขึ้นในเดือนมีนาคมเป็นลำดับถัดไป นอกจากนี้ยังมีงานอีเวนท์อื่นๆ ที่กลุ่มธุรกิจรับสร้างบ้านไปร่วมออกบูธ ได้แก่ งานบ้านและสวนแฟร์ งานสถาปนิก เป็นต้น

โอกาสและการแข่งขัน
ทั้งนี้ ภาพรวมการแข่งขันของธุรกิจรับสร้างบ้านในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลนั้น หากดูเผินๆ อาจเห็นเป็นเพียงแค่ผู้ประกอบการรับสร้างบ้านแข่งขันกันเองเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้วผู้ประกอบการยังต้องแข่งขันกับธุรกิจที่อยู่อาศัยประเภทอื่นๆ ในปริมาณที่มากกว่าการก่อสร้างแบบเดิมๆ ขณะเดียวกันบริษัทรับสร้างบ้านรายเล็กรายกลางกลับมีข้อจำกัด เนื่องจากยังเลือกใช้ระบบก่อสร้างแบบเดิมเป็นส่วนใหญ่ และต้องพึ่งพาแรงงานจำนวนมากๆ เป็นหลัก ซึ่งสวนทางกับแรงงานที่ขาดแคลนอย่างหนักในปัจจุบัน

นอกจากนี้แล้ว คู่แข่งสำคัญของกลุ่มผู้ประกอบการในธุรกิจรับสร้างบ้าน ได้แก่ ผู้รับเหมารายย่อยทั่วไป ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็นไม้เบื่อไม้เมาและต่างฝ่ายต่างมุ่งโจมตีกันมาโดยตลอด ผลก็คือ ผู้บริโภคได้รับแต่ข่าวด้านลบของทั้งสองฝ่าย และนั่นก็เป็นเหตุให้ขาดความน่าเชื่อถือในสายตาของผู้บริโภค ดังนั้น ทั้งสองฝ่ายควรหลีกเลี่ยงที่จะใช้วิธีการแข่งขันแบบเดิมๆ และหันมาแข่งขันกันอย่างสร้างสรรค์ หรือแข่งกันที่คุณภาพและบริการแทน

อย่างไรก็ดี สมาคมฯ คาดการณ์ว่าปี 2557จะเป็นอีกปีหนึ่งที่ผู้ประกอบการรับสร้างบ้านทั้งรายเดิมและรายใหม่ จะมีการขยายสาขาออกไปยังภูมิภาคหรือต่างจังหวัดเพิ่มมากขึ้นกว่าในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาการสร้างบ้านทั่วประเทศปีนี้ที่ 1.4 หมื่นล้านบาท ซี่งการขยายสาขาออกไปในต่างจังหวัดของรายผู้นำตลาด จะเป็นการเพิ่มโอกาสให้มูลค่าตลาดเติบโตได้ตามเป้าที่วางไว้

นายสิทธิพร กล่าวว่า แม้ว่าสถานการณ์ทางการเมืองจะยังเป็นปัจจัย หรือตัวแปรสำคัญที่มีผลกระทบต่อกำลังซื้อของกลุ่มธุรกิจรับสร้างบ้านที่อาจชะลอตัวลง รวมทั้งการขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศที่ชะลอตัว อันเนื่องจากภาคการส่งออกและภาคการผลิตที่ปรับตัวลดลง แต่เชื่อว่าผู้ประกอบการในธุรกิจรับสร้างบ้านที่มีการปรับตัวมาก่อนหน้านี้หลายๆ ด้าน และผู้ประกอบการกลุ่มวัสดุที่แตกไลน์มาสู่ธุรกิจรับสร้างบ้านรายใหม่ๆ พร้อมร่วมกันเปลี่ยนตลาดรับสร้างบ้านจากเดิมมุ่งทำตลาดอยู่เฉพาะในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ไปสู่การขยายตลาดออกไปได้ทั่วประเทศ ทำให้ปริมาณและมูลค่าตลาดรวมรับสร้างบ้านขยายตัวได้ดีขึ้นอย่างชัดเจน พร้อมๆ กับมีการนำระบบการก่อสร้างสำเร็จรูปจากโรงงานผลิต หรือนำระบบการก่อสร้างระบบแห้งมาใช้มากขึ้น ซึ่งอาจจะมีต้นทุนที่สูงกว่าการใช้แรงงานแบบเดิมๆ แต่สามารถผลิตหรือสร้างบ้านได้จำนวนหน่วยมากขึ้น ที่สำคัญ สามารถควบคุมคุณภาพและมาตรฐานการสร้างบ้านให้เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคได้เป็นที่พอใจ ทั้งหมดเป็นเหตุผลสนับสนุนว่าตลาดรับสร้างบ้านในปี 2557จะยังขยายตัวได้ดีต่อเนื่องจากปีที่แล้ว

โดย : website http://www.ryt9.com/s/bmnd/1807490  วันพฤหัสบดีที่ 2 มกราคม 2557