ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
  • ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
ข่าวอสังหาริมทรัพย์
Line
26 ธ.ค.2566

สรท. ชี้ 5 ปัจจัยเสี่ยงฉุดส่งออกไทยทั้งปี 2566 ติดลบ 1%

Line

 
          สรท.เผยการส่งออกไทยทั้งปี 2566 ติดลบ 1% ชี้มี 5 ปัจจัยเสี่ยงที่กระทบต่อการส่งออกไทย ขณะที่การส่งออกไทยในปี 2567 คาดขยายตัวในกรอบ 1-2% สินค้าที่เติบโตไปได้ดียังอยู่ในกลุ่ม อาหาร เครื่องใช้ไฟฟ้า

          วันที่ 12 ธันวาคม 2566 นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่า สรท.คาดการณ์การส่งออกทั้งปี 2566 หดตัว 1.5-1% โดยมีโอกาสส่งออกทั้งปีจะหดตัวที่ 1% มีมูลค่า 284,600 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีปัจจัยเสี่ยงที่กระทบต่อการส่งออกคือ 1) เศรษฐกิจทั่วโลกปี 2566 ในภาพรวมเติบโตได้น้อยกว่าที่คาดไว้ และยังคงอยู่ในทิศทางชะลอตัว โดยเฉพาะเศรษฐกิจของประเทศหลัก

          2) ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ จากภาวะสงครามที่ยืดเยื้อ ส่งผลให้ความต้องการสินค้าไม่แน่นอน และกระทบต่อการค้าและเศรษฐกิจโดยรวม 3) อัตราดอกเบี้ยทั่วโลกยังคงทรงตัวระดับสูง ส่งผลให้ชะลอตัวทางเศรษฐกิจ ถึงแม้อัตราดอกเบี้ยโดยรวมจะปรับลดลงบ้างแล้ว โดยคู่ค้าหลักยังคงมีอัตราดอกเบี้ยสูง เช่นสหรัฐ

         4) ดัชนีภาคการผลิต (PMI) ยังคงทรงตัวและมีแนวโน้มหดตัวในบางตลาดสำคัญ ส่งผลให้ภาคการผลิตตึงตัว จากดัชนีภาคการผลิตเคลื่อนไหวใกล้เส้น base line โดยเฉพาะสหรัฐ ญี่ปุ่น เวียดนาม และ 5) ความกังวลเรื่องต้นทุนภาคการผลิตที่ยังมีความไม่แน่นอน อาทิ ค่าไฟฟ้าและค่าแรงขั้นต่ำ เป็นต้น

อย่างไรก็ดี สรท.มีข้อเสนอแนะสำคัญในการแข่งขันการส่งออก ได้แก่ 1) บริหารจัดการลดต้นทุนการผลิตเพื่อรักษาความสามารถการแข่งขันของผู้ประกอบการไทย ในสถานการณ์เศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก โดยเฉพาะการบริหารต้นทุนพลังงาน ค่าไฟฟ้า อัตราดอกเบี้ย ค่าจ้างขั้นต่ำ ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม

2) เร่งรัดการจัดกิจกรรมส่งเสริมการส่งออกในตลาดเป้าหมายที่สำคัญ และเร่งการเจรจาการค้าเสรี (FTA) และความตกลงทางการค้าและความร่วมมือทางเศรษฐกิจรูปแบบอื่น อาทิ Mini FTA ทั้งนี้ เพื่อสร้างแต้มต่อและลดอุปสรรคในการเข้าถึงตลาดและแหล่งวัตถุดิบ ให้ผู้ประกอบการไทยสามารถนำเสนอสินค้าเข้าสู่ตลาดโลกและแสวงหาวัตถุดิบสำคัญได้มากขึ้น

แนวโน้มส่งออก 2567
         ขณะที่แนวโน้มการส่งออกปี 2567 คาดการณ์ทั้งปีโต 1-2% หรือมีมูลค่า 286,500-289,300 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากการส่งออกสินค้ากลุ่มอาหาร ผลไม้ ยานยนต์และส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้า และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ยังเติบโตต่อเนื่อง ขณะที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าในกรอบ 34.9-35.10 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ราคาเชื้อเพลิงทรงตัว ขณะที่ตลาดใหม่ อาทิ ละติน แอฟริกา ตะวันออกกลาง ก็ขยายตัวสูง

         “การส่งออกปีหน้าถือว่าเป็นปีที่ยากลำบาก เพราะเราจะต้องเจอกับพายุเศรษฐกิจที่รุนแรงกว่าปีนี้ จากเศรษฐกิจโลกที่จะชะลอชัดเจนขึ้น รวมทั้งยังมีปัญหาเรื่องภัยแล้งเข้ามากระทบเพิ่ม แต่มั่นใจว่าเราจะฝ่ามรสุมเศรษฐโลกไปได้ โดยพึ่งพาการส่งออกกลุ่มอาหาร ยานยนต์ และยังมีค่าเงินบาทที่อ่อนค่าเป็นโบนัสให้กับการส่งออกอีกด้วย”

ปัจจัยเสี่ยงกระทบส่งออก
       ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงที่กระทบการส่งออกไทยปี 2567 ซึ่งจะทำให้ไม่เป็นไปตามเป้ามหาย คือเศรษฐกิจทั่วโลกเติบโตได้น้อยกว่าที่คาด ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ จากภาวะสงครามที่ยืดเยื้อ, อัตราดอกเบี้ยทั่วโลกยังคงทรงตัวระดับสูง, ดัชนีภาคการผลิต (PMI) ในตลาดสำคัญมีแนวโน้มหดตัว โดยเฉพาะสหรัฐ ญี่ปุ่น เวียดนาม และยังมีความกังวลเรื่องต้นทุนภาคการผลิตที่ยังมีความไม่แน่นอน อาทิ การปรับขึ้นค่าไฟฟ้าและค่าแรงขั้นต่ำของรัฐบาล

       ทั้งนี้ ผู้ส่งออกจะต้องเร่งบริหารต้นทุนการผลิตเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันของสินค้าส่งออกไทย โดยเฉพาะต้นทุนค่าไฟ ค่าจ้างขั้นต่ำ และเร่งรัดการจัดกิจกรรมส่งเสริมการส่งออก และขยายการจัดทำเอฟที เพื่อสร้างแต้มต่อและลดอุปสรรคให้สินค้าไทย


ที่มา : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ วันที่ 12 ธันวาคม 2566