หน้าแรก / Franchise
Franchise
หน้าแรก / Franchise

Franchise


บริษัทฯยังมีนโยบายจะขยายสาขาและตลาดรับสร้างบ้านออกไปทั่วประเทศ ภายใต้แบรนด์ "ศูนย์รับสร้างบ้าน พีดีเฮ้าส์" โดยมีแผนจะเปิดสาขาแห่งใหม่เพิ่มให้ครบ 50 สาขาภายในปี 2557 ทั้งในรูปแบบ "ลงทุนเอง" และ "แฟรนไชส์" ให้แก่ผู้สนใจลงทุนหรือผู้มีใจรักงานบริการรับสร้างบ้านอย่างมืออาชีพ

Line

บริษัทฯยังมีนโยบายจะขยายสาขาและตลาดรับสร้างบ้านออกไปทั่วประเทศ ภายใต้แบรนด์ "ศูนย์รับสร้างบ้าน พีดีเฮ้าส์" โดยมีแผนจะเปิดสาขาแห่งใหม่เพิ่มให้ครบ 50 สาขาภายในปี 2557 ทั้งในรูปแบบ "ลงทุนเอง" และ "แฟรนไชส์" ให้แก่ผู้สนใจลงทุนหรือผู้มีใจรักงานบริการรับสร้างบ้านอย่างมืออาชีพ

Line

การลงทุนและผลตอบแทนแฟรนไชส์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์


 
 
ควรเข้าใจก่อนว่าการลงทุนทำธุรกิจทุกประเภทนั้นมีความเสี่ยง ธุรกิจแฟรนไชส์ศูนย์รับสร้างบ้านนั้นก็เช่นกัน หากแต่ผู้ลงทุนสามารถบริหารและควบคุมความเสี่ยง โอกาส และผลสำเร็จหรือผลลัพธ์ของการลงทุนได้ด้วยตัวเอง ควบคู่ไปกับเจ้าของธุรกิจหลักหรือแฟรนไชส์ซอ ที่มีประสบการณ์และประสบความสำเร็จมาแล้วระดับหนึ่ง ดังจะเห็นว่ามีความแตกต่างกัน ระหว่างการเลือกลงทุนกับหุ้นของกิจการในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งต้องอาศัยผู้อื่นเป็นผู้บริหารกิจการนั้น ๆ แทน และผู้ลงทุนไม่มีส่วนร่วมในการบริหาร (สำหรับเงินลงทุน 2 - 3 ล้านบาท) เพียงแค่รอรับเงินปันผลเมื่อมีกำไร กล่าวคือ ไม่มีความท้าทาย ไม่อาจรู้สึกหรือรับรู้ได้ถึงความเป็นธุรกิจของตัวเอง
 
ธุรกิจแฟรนไชส์ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ จึงเหมาะกับผู้ลงทุนที่มิใช่แค่ต้องการเงินปันผลจากกำไรเท่านั้น หากแต่พร้อมจะบริหารความท้าทาย และความเสี่ยงในการลงทุนด้วยตัวเอง ต้องการรับรู้ได้ถึงความเป็นเจ้าของธุรกิจ รวมถึงต้องการมีระบบการบริหารจัดการธุรกิจที่ดี มีตราสินค้าหรือแบรนด์ที่ผู้บริโภคยอมรับและเชื่อถือ และต้องการที่ปรึกษาและผู้สนับสนุนการดำเนินธุรกิจระยะยาว 
 
ด้วยเหตุนี้ แฟรนไชส์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ จึงถูกออกแบบและพัฒนาระบบการจัดการและมาตรฐานขึ้น เพื่อผู้สนใจลงทุนและผู้ต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจได้พิจารณาว่ามีข้อดีและข้อจำกัด ที่เหมาะกับตัวเองหรือไม่ ดังต่อไปนี้
 
  • อายุสัญญา 15 ปี (5+5+5 ปี)
     
  • การลงทุนที่ให้ผลตอบแทนคุ้มค่า คืนทุนในระยะเวลารวดเร็ว
     
  • ไม่ใช่เป็นแค่ผู้ลงทุนเท่านั้น แต่เป็นเจ้าของธุรกิจและบริหารด้วยตัวเอง 
     
  • มีแฟรนไชส์ซอเป็นที่ปรึกษา สนับสนุนการจัดการและกำกับดูแลเรื่องมาตาฐานต่าง ๆ
     
  • งบประมาณการลงทุน รวมค่าเซ็ทอัพธุรกิจ ค่าตกตแต่งและค่าเครื่องใช้สำนักงาน 1.2 - 2 ล้านบาท (ขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่) และเงินทุนสำรองหมุนเวียนธุรกิจ .8 - 1 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 2 - 3 ล้านบาท
     
  • ค่าสนับสนุนระหว่างการดำเนินธุรกิจ แบ่งเป็น 2 ส่วนหลัก ๆ

     

ค่า Royalty Fee % ของรายได้

ค่า Marketing Fee % ของรายได้

คุณสมบัติของแฟรนไชส์ซี

  • มีทัศนคติที่ดีต่อความสำเร็จ
     
  • รักงานบริการ และมีความสามารถในการประนีประนอมสูง
     
  • สามารถจัดการและประสานงานกับบุคลหลาย ๆ ลักษณะได้เป็นอย่างดี
     
  • ปฏิบัติตามระบบแฟรนไชส์และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้
     
  • มีจริยธรรมและปฏิบัติต่อลูกจ้างอย่างมีเหตุมีผลและให้เกียรติ
     
  • มีทักษะด้านการขาย หากมีประสบการณ์การทำงานด้านวิศวกร, งานขายอสังหาริมทรัพย์มาก่อนจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ
     
  • มีความสามารถทางการเงินที่เพียงพอต่อการลงทุน กรณีเงินลงทุนไม่เพียงพอสามารถขอสินเชื่อเพื่อการลงทุนได้จาก SMEs Bank โดยมีหลักทรัพย์บางส่วนหรือไม่มีหลักทรัพย์คำประกันก็ได้ (ขึ้นอยู่ที่การพิจาณาของธนาคาร)
     
  • มีเวลาบริหารและจัดการธุรกิจด้วยตัวเองอย่างใกล้ชิดในระยะ 5 ปีแรก 

อย่างไรก็ดี โอกาสของความสำเร็จในการลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์นั้น ผู้เชียวชาญการวางระบบแฟรนไชส์ท่านหนึ่งกล่าวไว้ว่า.. 50% เกิดจากผู้ลงทุน ส่วนอีก 50% มาจากแฟรนไชส์ซอ ความหมายก็คือ หากผู้ลงทุนหรือแฟรนไชส์ซี มีความตั้งใจดำเนินธุรกิจอย่างจริงจัง ประพฤติหรือปฏิบัติกับลูกค้าและคู่ค้าด้วยความซื่อสัตย์ มีความรับผิดชอบ และปฏิบัติได้ตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ ดังเช่นที่แฟรนไชส์ซอได้ปฏิบัติและพิสูจน์ให้เห็นมาแล้วกว่า 28 ปีที่ผ่านมา