หลังจากหมดฤดูฝนแล้ว ก็ก้าวเข้าสู่ฤดูหนาว หากใครต้องการเริ่มต้นสร้างบ้านในฤดูนี้ก็ถือว่าเป็นช่วงที่เหมาะสมและสะดวกในการเริ่มปลูกสร้างบ้าน ด้วยสภาพอากาศที่เป็นใจ อากาศดี แดดดี ไม่มีพายุฝนมาให้กังวลใจ

• ไม่ต้องกลัวเปียก

        แน่นอนว่าถ้าก่อสร้างในช่วงฤดูฝน งานก่อสร้างก็ต้องเผชิญกับปัญหาต่าง ๆ มากมาย ที่จะทำให้งานล่าช้า ทั้งหน้างานที่เปียกเฉอะแฉะ วัสดุก่อสร้างที่ต้องเก็บให้พ้นฝน หน้าฝนสภาพอากาศจะไม่เหมาะกับการก่อสร้างในบางขั้นตอน อีกทั้งความปลอดภัยในการทำงานโดยเฉพาะเรื่องไฟฟ้า เมื่อหมดหน้าฝนแล้ว ทีมงานก่อสร้างสามารถทำงานได้อย่างไม่ต้องกลัวว่าจะได้รับผลกระทบจากฝน ทำให้ทำงานก่อสร้างได้อย่างราบรื่น

• ดินอยู่ตัวไม่ทรุด

         การเตรียมตัวก่อนสร้างบ้าน จะต้องมีการถมดินไว้อย่างน้อย 6 เดือน เพื่อให้ดินแน่นไม่ทรุดตัวลง ดังนั้นจึงควรเริ่มถมดินในช่วงหน้าฝน จะช่วยให้บดอัดดินให้แน่นได้ง่าย เพราะดินจะมีความอิ่มน้ำ จึงทำให้เนื้อดินแน่น มีช่องว่างในดินน้อย บดอัดให้แน่นได้ง่ายกว่าและดินมีโอกาสทรุดตัวลงได้บ้างแต่ไม่ทรุดมากนั่นเอง จึงเป็นโอกาสดีที่จะถมดินในช่วงหน้าฝน เมื่อถึงช่วงหน้าหนาวดินก็จะอยู่ตัว ไม่มีปัญหาดินแฉะหรือเป็นโคลนเหมือนหน้าฝน เมื่อไม่มีปัญหาเรื่องดินก็พร้อมที่จะเริ่มขั้นตอนสร้างบ้านต่อไป

• เอื้อต่องานก่อสร้างอื่น ๆ

         หากเราเตรียมพร้อมและเริ่มก่อสร้างบ้านในช่วงหน้าหนาว หลังจากเตรียมดินแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือการลงฐานรากและขึ้นโครงสร้างหลักของบ้าน จะให้เวลาประมาณ 2-3 เดือน และเมื่อเข้าสู่หน้าร้อนก็สามารถทำงานผนัง พื้นและหลังคาได้ทันก่อนที่หน้าฝนปีหน้าจะมาถึง และเมื่อถึงหน้าฝนในปีต่อไปก็จะถือโอกาสตรวจสอบการรั่วของหลังคา และสามารถติดตั้งระบบต่าง ๆ ภายในบ้านโดยไม่เปียก เพราะหลังคาเสร็จเรียบร้อยแล้วอีกด้วย

• เก็บและรักษาสภาพวัสดุก่อสร้างได้ดี

         ที่หน้าไซต์งานก่อสร้างจะต้องมีการกองวัสดุที่หน้างาน หากกองไว้ในช่วงฤดูฝน ที่ฝนตกชุก เปียกเฉอะแฉะและอากาศชื้น ทำให้วัสดุมีความชื้น โครงสร้างต่าง ๆ ต้องห่อหุ้มด้วยพลาสติกหรือผ้าใบ อาจจะส่งผลให้คุณภาพของวัสดุเสื่อมหรือเสียหายได้ ในหน้าหนาวอากาศแห้ง ไม่ชื้น จึงสามารถเก็บและรักษาวัสดุก่อสร้างได้ดี

หมายเหตุ - เริ่มสร้างบ้านในช่วงฤดูกาลใดขึ้นอยู่กับความสะดวก เพียงแต่ต้องวางแผนแก้ไขปัญหาที่จะเกิดขึ้นหน้างานไว้ด้วย